เครื่องปรับอากาศที่ใช้ตามบ้านพักอาศัย หรืออาคารสำนัก งานขนาดเล็ก ซึ่งหาซื้อได้ทั่วไป แบ่งเป็น 8 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
1. แบบติดผนัง (Wall Type)
ข้อดี : มีให้เลือกหลากหลาย เงียบ ติดตั้ง ง่าย
ข้อเสีย : ไม่เหมาะกับงานหนัก เนื่องจากคอยล์เย็นมีขนาด เล็กส่งผลให้คอยล์สกปรกและอุดตันง่ายกว่า คอยล์ที่มีขนาดใหญ่กว่า
2. แบบตั้งได้ /แขวนได้ (Convertible Type)
ข้อดี : เลือกการติดตั้งได้ทั้งตั้งพื้นหรือแขวนเพดาน เข้าได้กับทุกสถานที่ การระบายลมดี
ข้อเสีย : ไม่มีรูปแบบให้เลือกมากนัก
3. แบบตู้ตั้ง (Floor Standing Type)
ข้อดี : ติดตั้งง่ายโดยสามารถตั้งกับพื้นได้เลย ไม่ต้องยึด ทำความเย็นได้เร็ว เนื่องจากมีเส้นผ่าน ศูนย์กลางใบพัดลมใหญ่ซึ่งให้กำลังลมที่แรงกว่า
ข้อเสีย : เปลืองพื้นที่ใช้สอย
4. แบบฝังเพดาน (Concealed Type)
ข้อดี : สามารถทำตู้ซ่อนหรือฝังเรียบไว้บนเพดานห้อง
ข้อเสีย : ติดตั้งยากเนื่องจากต้องฝังเข้าตู้หรือเพดานห้อง การดูแลรักษาทำได้ไม่ค่อยสะดวก
5. แบบหน้าต่าง (Window Type)
ข้อดี : ประหยัดพื้นที่เนื่องจากไม่ต้องใช้พื้นที่ติดตั้งหน่วยภายนอก (condensing unit) ประสิทธิภาพ
การทำความเย็นสูงกว่าแบบอื่นๆ เนื่องจากไม่มีการเดินท่อน้ำยา ทำให้ไม่มีความร้อนแทรกซึมตามท่อน้ำยา
ข้อเสีย : เสียงดังจากการทำงานของคอมเพรสเซอร์ และทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนของตัว เครื่องและผนัง ถ้าเครื่องขนาดขนาดใหญ่จะมีปัญหาเพราะบริเวณช่องหน้า ต่างไม่สามารถรับน้ำหนักมากได้และเครื่องปรับอากาศประเภทนี้ไม่ได้รับความนิยม หรือเลิกใช้กันแล้ว
6. แบบเคลื่อนที่ (Portable Type)
ข้อดี : ขนาดกะทัดรัด ไม่ต้องติดตั้ง เข็นไปใช้ได้ทุกพื้นที่
ข้อเสีย : ใช้ได้กับห้องที่ขนาดใหญ่ไม่มาก ประสิทธิภาพการทำความเย็นต่ำกว่า
7. แบบฝังแนบฝ้า (Cassette Type)
ข้อดี : สวยงาม กระจายลมได้ 4 ทิศทาง และออกแบบให้เงียบกว่าเครื่องปรับอากาศประเภทอื่น
ข้อเสีย : ติดตั้งยาก ข้องจำกัดในการติดตั้ง เช่น ไม่สามารถติดตั้งในฝ้าบุ๋มได้ และการดูแลยากกว่า
8. แบบกึ่งติดผนังแนบใต้ฝ้า (Ceiling Wall)
ข้อดี : สวยงาม ขนาดความสูงกะทัดรัด ด้วยดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใคร ลิขสิทธิ์เฉพาะเครื่องปรับ อากาศ Fujitsu เจ้าเดียว
ข้อเสีย : มีราคาสูงกว่าแบบติดผนัง (Wall Type) นิดหน่อย
แล้วเราจะเลือกใช้แบบไหนดีนะ
วิธีใช้เครื่องปรับอากาศให้ประหยัดพลังงานและคุ้มค่า
ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศเป็นประจำเพื่อให้การระบายความร้อนทำได้สะดวก เปลี่ยนเครื่องปรับอากาศใหม่ทดแทนเครื่องเก่าที่มีประสิทธิภาพต่ำหรือใช้งาน มานาน ลดความร้อนจากภายนอกที่ผ่านเข้ามายังบริเวณที่ปรับอากาศ ดังนี้
1. ลดความร้อนผ่านผนัง ผนังกระจกที่ควรป้องกันความร้อนโดยใช้เครื่องบังแดดภายในอาคาร หรือหลบแนวหน้าต่างเข้ามาภายในผนังปูน ให้ทาสีด้านนอกด้วยสีขาวหรือสีอ่อน หรือใช้วัสดุผิวมัน เช่น กระเบื้องเคลือบ เพื่อช่วยสะท้อนแสง ปลูกต้นไม้หรือสร้างที่บังแดดเพื่อให้ร่มเงาแก่ผนัง ผนังห้องโดยเฉพาะด้านทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตกซึ่งไม่มีเงากำบังเป็นส่วนที่มีความร้อนมาก ควรบุฉนวนกันความร้อนหรือใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ตั้งกั้นไม่ให้ความร้อนแผ่เข้ามาในห้องเร็วนัก ผนังอาคารที่เป็นไม้ หากมีช่องห่างของไม้มากควรตีผนังด้านในด้วยไม้อัดเพื่อกันการผ่านของความ ร้อนจากภายนอกเข้ามาในอาคาร
2. การลดความร้อนผ่านหน้าต่าง หน้าต่างควรมีเฉพาะทิศเหนือหรือทิศใต้ของอาคารเพื่อลดการรับแสงแดดโดยตรง ไม่ให้มีรอยรั่วตามขอบประตู หน้าต่าง หรือบริเวณฝ้าเพดาน
3. การลดความร้อนผ่านหลังคาและฝ้าเพดาน หลังคาที่เป็นสังกะสีหรือกระเบื้องควรตีฝ้าหรือติดตั้งวัสดุสะท้อนความร้อน หรือบุฉนวนกันความร้อนเพื่อช่วยลดความร้อนที่จะแผ่เข้ามาในอาคาร ถ้ามีช่องว่างระหว่างหลังคากับฝ้ามากควรเจาะช่องลมเพื่อระบาย อากาศ
4. การลดความร้อนผ่านพื้น หากเป็นพื้นไม้ควรอุดช่องระหว่างไม้ให้ สนิท แอร์จะได้ไม่รั่วออกไป
5. จัดพื้นที่ในห้องซึ่งไม่ได้ใช้งานประจำ เช่น ตู้เสื้อผ้า ห้องแต่งตัว อยู่ทางทิศตะวันตก ช่วยกันความร้อนไม่ให้เข้าถึงห้องที่ใช้สอยประจำคือส่วนนอน ทำให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้าในการปรับอุณหภูมิลงได้
6. พยายามใช้แสงธรรมชาติช่วยส่องสว่างภายใน อาคาร และควรปิดไฟที่ไม่จำเป็น ภายในอาคารควรใช้สีอ่อนช่วยการสะท้อนแสง ทำให้ใช้ดวงไฟน้อยลง อุปกรณ์ที่ให้ความร้อนควรใช้นอกห้อง
อ้างอิงจาก : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
เข้าชม : 3306
|